วิธีปิดใช้งานการแจ้งเตือนการหายใจบน Apple Watch
สารบัญ:
Apple Watch จะเตือนให้คุณหายใจเป็นระยะๆ ด้วยแอพ Breathe ซึ่งพยายามแนะนำผู้ใช้ให้หายใจลึกๆ หลายๆ ครั้งหลังจากที่สะกิดคุณและบอกให้คุณ “ใช้เวลาสักครู่เพื่อหายใจ ” สิ่งนี้เหมือนกับ Apple Watch ที่เตือนให้คุณยืนขึ้นและเคลื่อนไหวไปรอบๆ เนื่องจากนาฬิกาข้อมือพยายามสะกิดเตือนให้คุณมีพฤติกรรมที่ดีต่อสุขภาพมากขึ้นฟังก์ชันการหายใจมีจุดประสงค์เพื่อให้ "มีสติ" และแอปสุขภาพของ iPhone ที่เกี่ยวข้องจะติดตามข้อมูลลมหายใจผ่านส่วน "สติ" ของข้อมูลแอปสุขภาพ แต่ไม่ใช่ทุกคนที่ต้องการการเตือนการหายใจบน Apple Watch ดังนั้นหากคุณไม่เปลี่ยนเป็นสีม่วงจากการลืมหายใจเข้าและออก คุณสามารถปิดใช้งานการเตือนการหายใจบน Apple Watch ได้
บทช่วยสอนนี้จะแนะนำวิธีการปรับการเตือน Apple Watch Breathe ในสามวิธีที่แตกต่างกัน ปิดการช่วยเตือนการหายใจโดยสิ้นเชิง เลื่อนการเตือนชั่วคราว และใครที่จะปิดการเตือนสำหรับวันนั้นๆ
ก่อนอื่น คุณสามารถยกเลิกและเลื่อนการช่วยเตือนการหายใจตามที่ปรากฏใน Apple Watch ของคุณได้อย่างรวดเร็ว เพียงแตะปุ่ม 'เลื่อนปลุก' แทนปุ่ม 'เริ่ม'
วิธีปิดการแจ้งเตือนลมหายใจบน Apple Watch
หากต้องการปิดการแจ้งเตือนการหายใจโดยสมบูรณ์ ให้ทำดังต่อไปนี้:
- เปิดแอป Watch บน iPhone ที่ซิงค์กับ Apple Watch
- แตะแท็บ “นาฬิกาข้อมือของฉัน”
- แตะที่ “หายใจ” แล้วไปที่ “เตือนลมหายใจ”
- เลือก “ไม่มี” เพื่อปิดการแจ้งเตือนการหายใจบน Apple Watch
คุณยังสามารถเปลี่ยนความถี่ของการเตือนการหายใจได้ในส่วนการตั้งค่าเดียวกัน หากคุณต้องการให้มีการเตือนการหายใจน้อยลงหรือมากขึ้น แทนที่จะปิดคุณลักษณะนี้ทั้งหมด
วิธีปิดเสียงเตือนความจำในแต่ละวันบน Apple Watch
อีกทางเลือกหนึ่งคือการปิดเสียงเตือนการหายใจสำหรับวัน ซึ่งจะเป็นการปิดใช้งานคุณลักษณะนี้เพียงวันเดียวเท่านั้นและจะไม่ปิดคุณลักษณะนี้โดยสิ้นเชิง:
- เปิดแอป Watch บน iPhone ที่ซิงค์กับ Apple Watch
- แตะแท็บ “นาฬิกาข้อมือของฉัน”
- แตะที่ “หายใจ” แล้วพลิกปุ่มสลับเป็น “ปิดเสียงสำหรับวันนี้”
ไม่ว่าคุณจะปิดเสียงคุณสมบัติหายใจเป็นเวลาหนึ่งวัน เลื่อนไปชั่วขณะ หรือปิดไปเลย ขึ้นอยู่กับคุณและวิธีที่คุณใช้ Apple Watch
คุณสมบัติการหายใจเป็นเพียงหนึ่งในหลากหลายฟังก์ชั่นที่ Apple Watch มีให้สำหรับการดูแลรักษาสุขภาพ รวมถึงตัววัดจำนวนก้าวและอัตราการเต้นของหัวใจของ Apple Watch พร้อมด้วยการติดตามการออกกำลังกายและความสามารถอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับฟิตเนส แต่ไม่ใช่แค่ Apple Watch เท่านั้นที่มีฟังก์ชันการติดตามสุขภาพ เพราะ iPhone ยังสามารถทำหน้าที่เป็นเครื่องนับก้าวและติดตามจำนวนก้าวและระยะทางได้อีกด้วย ผู้ใช้บางคนอาจพบว่าคุณสมบัติบางอย่างมีประโยชน์มากกว่าคุณสมบัติอื่น ดังนั้นจึงเป็นการดีที่จะปรับแต่งฟังก์ชันติดตามสุขภาพและฟิตเนสเหล่านี้ให้เหมาะกับความต้องการของคุณเอง